Greek Yogurt ที่ผลิตขึ้นเองจาก Yogurt Homemade รสชาดเข้มข้น แต่คงเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล มีสอง Topping ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น พิลังกาสาเจลลี่ รสหวานอมเปรี้ยวที่ผลิตโดยกลุ่มผู้สูงอายุตำบลบางยอ หรือ เจลลี่น้ำผึ้งที่หวานหอม ในขนาดบรรจุ 100กรัม
฿50🐴ม้าฮ่อ🍍 เป็นอาหารว่างแบบโบราณชนิดหนึ่ง ลักษณะรสชาติเค็มหวารคล้ายไส้สาคู มักนิยมกินคู่ก้บผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ เพื่อตัดรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น คาดว่าน่าจะเกิดจากความช่างเสียดายของคนไทยสมัยก่อนไม่อยากทิ้งขว้างผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวไปเสีย จึงคิดเครื่องจิ้มขึ้นมากินคู่กันเพื่อตัดรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น ม้าฮ่อจะประกอบด้วย 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น สับปะรด ตะลิงปิง มะม่วง มะปราง ส้ม 2.ไส้ ที่ปั้นเป็นก้อนกลมๆ วางบนผลไม้ ตกแต่งให้สวยงามด้วยใบผักชีสีเขียว และพริกชี้ฟ้าแดงหั่นเล็กๆ เพื่อเป็นอาหารตาด้วย🥰 ที่ร้าน Bangkajao craft มีจำหน่าย 2 แบบ คือ 1⃣ แบบพร้อมทาน จาน/กล่องละ 75 บาท 2⃣ แบบขวดแก้ว ปริมาณ 200 กรัม ขวดละ 150 บาท 👉ผู้ผลิต : วิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารโบราณเรียกชื่อ 👉เจ้าของสูตร : ป้าปู๊ด - อาภรณ์ พานทอง หมู่บ้านนวัตวิถีบางน้ำผึ้ง #bangkajaocraft #โบราณเรียกชื่อatบางกระเจ้า #ม้าฮ่อ
฿75อาหารว่างแบบโบราณของไทย ด้วยการนำแตงโมหวานฉ่ำ มาโรยด้วยผงปลาแห้งที่ทำจากเนื้อปลาช่อน 100% ปรุงรสด้วย หอมแดง และน้ำตาล คั่วจนแห้งสนิก ได้รสชาติกลมกล่อมตัดกันอย่างลงตัว
฿100แกงมัสมั่น เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกงมัสมั่นแบบมุสลิมไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน ในไทยมีวิธีการทำสองแบบคือ แบบไทย น้ำพริกแกงมี พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ลูกผักชี ยี่หร่า ดอกจันทน์ กานพลู ปรุงรสให้หวานนำ เค็มและอมเปรี้ยว เป็นแกงมีน้ำมากเพื่อรับประทานกับข้าว อีกแบบเป็นแบบมุสลิม น้ำขลุกขลิก ใช้จิ้มขนมปังหรือโรตี ในน้ำพริกแกงไม่ใส่ข่า ตะไคร้ ส่วนผสมที่เป็นพริกแห้ง หอม กระเทียม ถั่วลิสงจะทอดก่อน ใส่ผงลูกผักชี ยี่หร่า ใส่มันฝรั่ง บางสูตรใส่มะเขือยาว ก่อนจะมีมันฝรั่งมาปลูกแพร่หลายในไทย จะนิยมใส่มันเทศ สันนิษฐานว่าคำว่า "มัสมั่น" มาจากภาษาเปอร์เซียคำว่า مسلمان (มุสลิมมาน) ซึ่งหมายถึง ชาวมุสลิม แกงมัสมั่นจัดเป็นอาหารชนิดแรกที่ปรากฏในกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ความว่า ๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚ — กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน แกงมัสมั่นแบบชาวมุสลิมปักษ์ใต้ ต่างจากการปรุงแกงมัสมั่นของชาวไทยภาคกลางคือ จะไม่ทำเป็นน้ำพริกแกงมัสมั่น แต่จะผสมลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกป่นอินเดียและพริกไทยป่นไว้เป็นผงเครื่องแกง จากนั้นจึงนำลงไปผัดกับน้ำมันที่เจียวหัวหอมแล้ว ส่วนแกงมัสมั่นแบบมลายู-ชวา จะใส่กานพลู อบเชย ลงไปผัดกับน้ำมันและหอมแดงจนหอม แล้วจึงใส่พริกป่นอินเดีย ลูกผักชีป่น ยี่หร่าป่น พริกไทยป่นลงไปผัดให้เข้ากัน นอกจากนั้นยังใส่มะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีนและหน่อไม้จีนด้วย เว็บไซต์ CNNGo ได้จัดอันดับ 50 เมนูอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกโดยการลงคะแนนเสียงทางเฟซบุ๊ก ปรากฏว่า แกงมัสมั่นได้รับเลือกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก เมนูข้าวกล้องมัสมั่นไข่นุ่มของทางร้านจะใช้แกงแบบที่ 1 ซึ่งมีให้เลือกทั้งเนื้อน่องลายและหมูสันคอ แต่ใส่ลูกจากที่เป็นเอกลักษณ์ของบางกะเจ้าด้วย เสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องออแกนิคส์ และไข่นุ่มสูตรเฉพาะของทางร้าน และยังมีน้ำซุปเครื่องเคียงเพื่อเพิ่มรสชาติ
฿120ตำรับดับร้อนของคนโบราณ ที่ผสานรสชาติจากส่วนผสมหลากชนิด คำว่าจีน จึงไม่ได้มาจากจีน แต่เพี้ยนเสียงมาจากคำมอญว่า ‘คนอมจิน’ คนอม หมายถึง จับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน จิน หมายถึงทำให้สุก ดั้งเดิมขนมจีนจึงเป็นของคนมอญก่อนแพร่หลายในวัฒนธรรมการกินของผู้คนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขมรเรียก ‘หนมบะจก’ เวียดนามเรียกว่า ‘บุ๋น’ ลาวเรียก ‘ข้าวปุ้น’ พม่าเรียก ‘มอนดี’ หรือ ‘โมฮินกามอน’ แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าเส้นแป้งข้าวของทุกชนชาตินั้นรับมาจากมอญโดยตรงไปเสียหมด เพราะต่างก็ปลูกข้าวเองได้ และคงคล้ายกับการกินปลาร้าซึ่งยักย้ายถ่ายเทกันไปมาจนกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมของผู้คนแถบนี้ ขนมจีนเข้ามาในไทยตั้งแต่เมื่อไรไม่แน่ชัดนัก เพราะตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ก็ปรากฏคลองหนึ่งชื่อคลองขนมจีน และอีกคลองชื่อคลองน้ำยา ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 1 กรุงรัตนโกสินทร์ มีการทำขนมจีนเลี้ยงในงานบุญใหญ่นับแต่นั้น เมื่อขนมจีนเข้ามาในไทยก็แผ่ขยายและได้รับความนิยมไปทั่วทุกภูมิภาค โดยเส้นขนมจีนหลักๆ มีอยู่ 2 แบบคือ ขนมจีนแป้งหมัก กับขนมจีนเส้นสด ขนมจีนแป้งหมักจะให้ความเหนียวนุ่ม เส้นสีคล้ำออกสีน้ำตาลนิดๆ จากการแช่ข้าวหมักไว้ 3-4 วัน ส่วนขนมจีนแป้งสดนั้นย่นย่อเวลาการทำไปมาก คือโม่แป้งแล้วทำเลย จะได้เส้นสีขาว แต่ไม่เหนียวเท่าแป้งหมัก สำหรับน้ำราดขนมจีนที่ให้กลิ่นรสเฉพาะของแต่ละภาคจึงเป็นหัวใจความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละตำรับ หนึ่งในนั้นคือ ‘ขนมจีนซาวน้ำ’ ขนมจีนภาคกลางที่หากินได้ยากในปัจจุบัน และถือเป็นเมนูคลายร้อนของคนสมัยก่อน ที่มักทำกินกันบ่อยครั้งในช่วงสงกรานต์ เพราะประกอบด้วยเครื่องปรุงสดหลากชนิดที่ให้ความสดชื่น กินแล้วสบายท้อง เช่น รสเปรี้ยวหวานจากสับปะรด สดชื่นเผ็ดปลายลิ้นจากขิงอ่อนซอย แม้แต่การเลี้ยงพระสงฆ์ในพระราชกุศลสงกรานต์หลวงก็ถวายขนมจีนซาวน้ำในภัตตาหาร ขนมจีนซาวน้ำแตกต่างจากขนมจีนชนิดอื่นที่มักให้รสจัดจ้านที่ตัวน้ำราด ส่วนขนมจีนซาวน้ำจะราดด้วยน้ำกะทิลอยแจงลอน ลูกชิ้นปลากรายรสนัวกลมกล่อม แล้วปรุงรสให้จัดจ้านขึ้นด้วยการคลุกเคล้าส่วนผสมที่มีอยู่มาก จะกินให้อร่อย จึงต้องรู้รสและปรุงขนมจีนซาวน้ำตามแบบฉบับดั้งเดิม คือราดด้วยน้ำกะทิรสหวานมันกลมกล่อมที่มีแจงลอนเนื้อเหนียวต้มในน้ำกะทิ บางตำรับนำแจงลอนไปปิ้งให้กลิ่นหอมก่อน แล้วคลุกเคล้ากับน้ำตาลทราย สับปะรดรสหวานอมเปรี้ยว เพิ่มรสเผ็ดเค็มด้วยน้ำปลาพริกขี้หนูสด กระเทียมซอยบาง กุ้งแห้งป่นหยาบ รสสดชื่นเผ็ดปลายลิ้นด้วยขิงอ่อนซอย ปิดท้ายด้วยเปรี้ยวหอมจากมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากันจะได้รสอร่อยจากส่วนผสมที่ให้รสหลากหลาย กินด้วยกันแล้วกลมกลืน สดชื่นจนอยากให้ทุกคนลองทำกินกันดู
฿75เมนูประจำของบ้านเด็กลุยสวนบางกะเจ้าที่เด็กๆและคุณพ่อคุณแม่ที่มากิจกรรมติดใจ ถูกนำกลับมาเสริฟในร้านอีกครั้ง เพิ่มความพิเศษให้เมนูนี้ด้วยข้าวกล้องระยะพลับพลึงจากนาข้าวอินทรีย์ จ.บุรีรัมย์ นุ่มๆ หอมๆ เป็นเมนูพิเศษมีเสริฟวันศุกร์-จันทร์ วันละ 10 จานเท่านั้น 🛵มีบริการเดลิเวอรี่ด้วย
฿75ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นขนมพื้นถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ นิยมรับประทานในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยวมะม่วง ทำมาจากข้าวเหนียว มะม่วง และกะทิ มีอายุการเก็บรักษาที่สั้นและมีปริมาณแคลอรี่ น้ำตาล และปริมาณไขมันสูง ข้าวเหนียวมะม่วงโดยทั่วไปประกอบด้วยข้าวเหนียวมูนที่แต่งรสหวานโดยใช้น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลมะพร้าว มูนเข้ากับกะทิและเกลือ รูปแบบที่รับประทานในประเทศไทยนิยมใช้มะม่วงสุกซึ่งมีรสหวานกว่ามะม่วงดิบ โดยนิยมใช้มะม่วงน้ำดอกไม้เป็นพิเศษ และอาจพบว่าใช้มะม่วงอกร่องได้เช่นกัน ทางร้านได้นำมาดัดแปลงเป็นวุ้นข้าวเหนียวมะม่วง เพื่อให้สามารถแช่เย็นให้ความสดชื่นเวลาทาน และยังเก็บได้นานขึ้นโดยที่ข้าวเหนียวไม่แข็งกระด้างเหมือนการแช่เย็นข้าวเหนียวมะม่วงเฉยๆ
฿50“ปลาแห้งแตงโม” เป็นอาหารว่างไทยแท้ ๆ ที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งในปัจจุบันเราหารับประทานแทบไม่ได้ และนับวันก็ยิ่งสูญหายไปกับกาลเวลา โดยที่คนรุ่นหลังน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ลิ้มลองความอร่อยของเมนูนี้ สำหรับเมนูปลาแห้งแตงโมนี้ เป็นภูมิปัญญาไทยที่มีมาอย่างแพร่หลายตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และยังสืบทอดต่อกันมาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ ตามที่ได้บันทึกไว้ในจดหมายเหตุกรมหลวงนรินทรเทวี ความว่า “เป็นอาหารจัดเลี้ยงในงานสมโภชพระพุทธมณีรัตนมหาปฏิมากรพระแก้วมรกต และฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในรัชกาลที่ 1 เป็นงานใหญ่ นิมนต์พระสงฆ์ฉันอาหารถึงวันละ 2,000 รูป อาหารอื่น ๆ ในงานที่ปัจจุบันยังรู้จักกันก็มีไก่พะแนง หมูผัดกับกุ้ง มะเขือชุบไข่ทอด ไข่เจียว ลูกชิ้น กุ้งต้ม ฯลฯ ส่วนปลาแห้งแตงโม ไม่ขึ้นโต๊ะอาหารไทยมานานแล้ว” จากจดหมายเหตุนี้เองทำให้เราได้ทราบว่าเมนู “ปลาแห้งแตงโม” นั้น เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายถึงขนาดที่ทำถวายพระกันในงานพระราชพิธีสมโภชพระพุทธมณีรัตนมหาปฏิมากรพระแก้วมรกตกันเลย วันนี้ทุกท่านสามารถสั่งทานได้ง่ายๆ ที่ Bangkajao Craft
฿75น้ำปลาหวาน+ม้าฮ่อ มะม่วงแก้วขมิ้นกินคู่กับน้ำปลาหวานน้ำตาลต้นจากที่หอมหวาน แต่อยากให้ลองทานคู่กับม้าฮ่อก็จะอีกรสชาติที่คุณจะติดใจหาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ Bangkajao craft
฿75ไดฟุกุปั้นสดไส้ลูกจาก อีกเมนูที่ขายดีมากเวลาไปออกบูธ ตัวแป้งบดจากข้าวกล้องข้าวเหนียวภูเขาไฟบุรีรัมย์นาอินทรีย์ ไส้ทำจากเนื้อลูกจากลอยแก้วนำมากวนกับน้ำตาลต้นจาก น้ำตาลเพื่อสุขภาพได้รสชาติหวานละมุนๆ มีขายแล้วที่ร้าน Bangkajao Craft ในราคาชิ้นละ 30 บาท สั่งใส่กล่องกลับบ้าน 4 ชิ้น 100 บาทเท่านั้น นอกจากจะหารับประทานได้ที่นี่เท่านั้น แต่เรายังกล้ารับประกันความอร่อย🥰 #ไดฟุกุไส้ลูกจาก #ไดฟุกุปั้นสด #bangkajaocraft #บางกะเจ้า #โบราณเรียกชื่อatบางกระเจ้า
฿30มะม่วงน้ำดอกไม้ปอกแช่เย็นจัด ปั่นรวมกับนมสดแช่เย็น โดยไม่มีการเติมน้ำตาล น้ำเปล่า และน้ำแข็งเพิ่มเติม ทำให้ได้รสชาตของมะม่วงน้ำดอกไม้สุกจัดแท้ๆ หวาน หอม ด้วยเนื้อมะม่วงเองเท่านั้น ให้ความสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อนๆ และช่วยเติมท้องที่ว่างโดยไม่ต้องทานขนมเพิ่ม
฿75Workshop การมัดย้อมผ้าเช็ดหน้าขนาด 50x50 cm. ด้วยสีธรรมชาติ มีให้เลือกสองสีคือ สีน้ำตาลและสีเหลือง ราคานี้รวมค่าวิทยากรและอุปกรณ์ทุกอย่าง ลูกค้าจะได้ผ้าเช็ดหน้ากลับบ้านเป็นที่ระลึก 1ผืน
฿200Workshop การมัดย้อมผ้าพันคอขนาด 70x170 cm. ด้วยสีธรรมชาติ มีให้เลือกสองสีคือ สีน้ำตาลและสีเหลือง ราคานี้รวมค่าวิทยากรและอุปกรณ์ทุกอย่าง ลูกค้าจะได้ผ้าพันคอกลับบ้านเป็นที่ระลึก 1ผืน
฿350Workshop การมัดย้อมเสื้อยืดขนาด S M L ด้วยสีธรรมชาติ มีให้เลือกสองสีคือ สีน้ำตาลและสีเหลือง ราคานี้รวมค่าวิทยากรและอุปกรณ์ทุกอย่าง ลูกค้าจะได้ผ้าเสื้อยืดกลับบ้านเป็นที่ระลึก 1ตัว
฿400Workshop การมัดย้อมเสื้อยืดขนาด XL 2XL 3XL(จองคิวล่วงหน้า) ด้วยสีธรรมชาติ มีให้เลือกสองสีคือ สีน้ำตาลและสีเหลือง ราคานี้รวมค่าวิทยากรและอุปกรณ์ทุกอย่าง ลูกค้าจะได้เสื้อยืดกลับบ้านเป็นที่ระลึก 1ตัว
฿450Workshop การทำพิมเสนน้ำด้วยดอกไม้ป่าจากบางกะเจ้า ทุกคนที่ทำจะสามารถเลือกผสมดอกไม้ทั้งมะลิ พวงชมพู ปีป ลาเวนเดอร์ เก๊กฮวย กุหลาบ และกลิ่นดอกไม้ที่ต้องการได้ด้วยตนเอง จนเป็นที่พอใจ หลังจากทำเสร็จแล้วจะได้ของที่ระลึกเป็นพิมเสนน้ำฝีมือตนเองในขวดแก้วใส่ ลูกกลิ้งพร้อมใช้งาน 1ขวด
฿250Workshop การทำยาดมสมุนไพรแบบโบราณ กลิ่นหอมสดชื่น ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้จะได้ลงมือทำเองทุกขั้นตอน จนได้ยาดมกลับไปเป็นของที่ระลึก 1 ขวด
฿250